เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลทาแม่ลอบ จังหวัดลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดลำพูน พร้อมกับคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ประจำจังหวัดลำพูน ได้นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจ ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลทาแม่ลอบ อำเภอแม่ทา โดยมีนายประกอบ ยอดยา นายอำเภอแม่ทา กล่าวรายงาน

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้องคมนตรีผู้แทนพระองค์ ร่วมกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำสิ่งของพระราชทาน เครื่องอุปโภค บริโภค มามอบแก่ราษฎรผู้ประสบภัย พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุสาธารณภัยและมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สำหรับสถานการณ์การเกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 เวลา 23.00 น. ในพื้นที่ บ้านปงแม่ลอบ หมู่ที่ 1 บ้านห้วยฮ่อมนอก หมู่ที่ 4 บ้านห้วยฮ่อมใน หมู่ที่ 5 และบ้านขุนก๋อง หมู่ที่ 6 ตำบลทาแม่ลอบ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร ปศุสัตว์ และสิ่งสาธารณประโยชน์ และจังหวัดลำพูน ได้มีประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก) ในพื้นที่อำเภอแม่ทา ลงวันที่ 15 เมษายน 2568 เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน เข้าดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวแล้ว

ในส่วนของจังหวัดลำพูน อำเภอแม่ทา ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน ประชาสังคม จิตอาสา อาสาสมัคร ประชาชน รวมถึงคณะสงฆ์จังหวัดลำพูน ได้ดำเนินการช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ทั้งด้านการรับบริจาคเงิน สิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว และจากการตรวจสอบ ความเสียหายพบว่า มีบ้านพักอาศัยที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 8 หลัง และเสียหายบางส่วน จำนวน 24 หลัง รวมครัวเรือนผู้ได้รับผลกระทบและความเสียหายทั้งหมด 32 ครัวเรือน.